เว็บตรง /บาคาร่าเว็บตรง 11 ตุลา! ศบค. ประชุมประเมินสถานการณ์ โควิด เล็งเปิด ร้านตู้เกม-สวนสนุก

เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง 11 ตุลา! ศบค. ประชุมประเมินสถานการณ์ โควิด เล็งเปิด ร้านตู้เกม-สวนสนุก

เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง ศบค. เตรียมหารือพร้อมประเมินสถานการณ์ 11 ตุลาคมนี้ พิจารณาเปิด ร้านตู้เกม สวนสนุก สวนน้ำ ชี้ถ้าทิศทางดีขึ้นผ่อนเพิ่มแน่นอน พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยว่า ประมาณวันที่ 11 ตุลาคมนี้ 

ศบค.จะประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ หารือผ่อนคลายมาตรการเพิ่ม 

หากสถานการณ์ดีขึ้นจะผ่อนคลายเพิ่มแน่นอน สำหรับข้อกำหนด ข้อห้ามต่างๆ ยังไม่ผ่อนมาตรการลง แต่ตุลาคมนี้จะผ่อนปรนต่างๆ ดังนี้ เปิดโรงภาพยนตร์ คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม ร้านทำเล็บ ร้านสัก ร้านเสริมสวย สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สระว่ายน้ำ ยิม ฟิตเนส ให้เปิดดำเนินกิจการได้โดยปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด

“แต่กิจการที่ยังคงปิดอยู่ คือ สวนสนุก สวนน้ำ ตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม การจัดเลี้ยง หรือจัดประชุม ส่วนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 34) นายกรัฐมนตรีได้ลงนามแล้ว ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว

เมื่อวันที่ 29 ก.ย.64 จะมีผลวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ขอให้ประชาชนศึกษาข้อกำหนดให้ความร่วมมือเต็มที่ ประมาณวันที่ 11 ตุลาคม ศบค.จะพิจารณา ถ้าทิศทางดี ก็จะผ่อนคลายกิจการ กิจกรรม เพิ่มขึ้นแน่นอน” พญ.อภิสมัยกล่าว

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ประเมินปริมาณฝนที่ตกหนักสะสมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบนและลุ่มน้ำป่าสัก คาดว่ามีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจากลุ่มน้ำปิงจากบริเวณคลองสวนหมาก อำเภอเมืองกำแพงเพชร จำนวน 438 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคลองขลุง อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 267 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) อยู่ในอัตราประมาณ 2,750 – 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีปริมาณน้ำหลากจากแม่น้ำสะแกกรังไหลผ่านสถานีวัดน้ำจังหวัดอุทัยธานี (Ct.19) อยู่ในอัตรา 450 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประเมินปริมาณน้ำไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในอัตรา 3,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้

1. ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยงบริเวณที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมลำน้ำ

2. ปรับแผนบริหารจัดการเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ โดยพร่องน้ำและบริหารพื้นที่ลุ่มต่ำ ให้เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำและเร่งระบายน้ำในลำน้ำ แม่น้ำ รองรับน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบน เพื่อลดผลกระทบ

ความรุนแรงของอุทกภัยและให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว

3. เตรียมแผนเผชิญเหตุรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที

แทบเป็นลม ค่าไฟ 120 ล้าน เพจดังเผยบิลค่าไฟมหาโหด ฝากช่วยตรวจสอบ

เพจ หมอแล็บแพนด้า ได้ออกมาโพสต์เผยแพร่เรื่องราวค่าไฟมหาโหดในวันนี้ (30 ก.ย.64) โโยทางเพจยังได้ระบุข้อความว่า “ฝากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคช่วยดูค่าไฟบ้านนี้ให้หน่อยครับ” ซึ่งจากภาพในโพสต์เป็นบิลใบเสร็จค่าไฟฟ้าจำนวนเงินที่ต้องชำระทั้งสิ้น 120,549,492.61 บาท ขณะเดียวกันข้อมูลจากทางเพจระบุว่า ปกติค่าไฟ 2-3 หมื่นบาท

ทั้งนี้หลังเรื่องราวดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กซึ่งเป็นพนักงานของการไฟฟ้า ได้เข้ามาแสดงความเห็นว่า “สามารถให้ทางการไฟฟ้าตรวจสอบได้และ สามารถทำบิลค่าไฟใหม่ได้นะครับ อาจจะเกิดจากการอ่านหน่วยผิดพลาด ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง” ขณะที่ความคิดเห็นของอีกท่าน กล่าวว่า “ถ้าจะ120ล้าน ก็ปล่อยให้ เค้ามายึดหม้อแปลงไปเถอะค่ะ”สุดท้ายนี้ก็ต้องรอฟังคำชี้แจงของทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่ดังกล่าวว่าเรื่องทั้งหมดนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร

BTS เผย เดินหน้า ฟ้อง กทม. เป็นเงิน 3.2 หมื่นล้านบาท จากกรณีขาดความชัดเจนในการชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว  นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ได้ออกมาเปิดเผยว่าขณะนี้ทางบริษัท ได้ยื่นคำฟ้องต่อกรุงเทพมหานคร และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ต่อศาลปกครอง

เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในการชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 64 ศาลปกครองได้รับคำฟ้องแล้ว ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนให้ กทม. และกรุงเทพธนาคมทำคำชี้แจง

“ครั้งนี้เป็นการยื่นฟ้องครั้งนี้สัญญาจ้างเดินรถ มูลค่าราว 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนสัญญาติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกล อยู่ในขั้นตอนรวบรวมเอกสาร เตรียมยื่นฟ้องขอให้ชำระหนี้ราว 2 หมื่นล้านบาท เพราะบีทีเอสได้รับผลกระทบทางธุรกิจอย่างมากต้องไปกู้เงินมาแก้ปัญหาการบริหารจัดการ จากปัญหาการค้างจ่ายค่าจ้างเกือบ 3 หมื่นล้านบาท”

โดย นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายยังเปิดให้ใช้ฟรี ยังไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงจากทาง กทม. ซึ่งการจะเก็บค่าโดยสารหรือไม่นั้น ไม่ใช่อำนาจของบีทีเอส ดังนั้น จะมีการเก็บค่าโดยสารเมื่อไหร่ อย่างไร เป็นอำนาจของ กทม.ที่ต้องกำหนดต่อไป เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง